สวัสดีค่ะสาวๆ เมื่ออาทิตย์ที่แล้วแจนได้มีโอกาสไปร่วมงานเปิดตัวโปรดักส์น้องใหม่ล่าสุดของแบรนด์
" COSLUXE " มาค่ะ แบรนด์นี้คงจะไม่มีใครที่ไม่รู้จักแล้วมั้ง เค้านี่ดังมากเรียกได้ว่าเป็นราชาของงานคิ้วงานตาเลยก็ว่าได้นะ สำหรับแจนนี่ก็มีโปรดักส์ของคอสลุคแทบจะทุกคอลเลคชั่น หรือทุกโปรดักส์ที่ออกมาเลยก็ว่าได้ ออกตัวก่อนเลยค่ะว่าทั้งหมดทั้งมวลจากที่เคยใช้มาคือซื้อเอง ดังนั้นมั่นใจได้เลยว่าจะไม่มีการอวยแบรนด์ใดๆทั้งสิ้นค่ะ แจนจึงกล้าพูดได้เต็มปากเลยว่า " COSLUXE " แบรนด์คนไทยแบรนด์นี้คุณภาพดีจริงๆ แถมยังราคาสามารถเอื้อมถึงได้อีกด้วย
และจากที่แจนได้ไปร่วมงานเปิดตัวโปรดักส์มา ทางแบรนด์ก็ได้มอบเซ็ทไอเท็มใหม่มาให้แจนได้ทดลองใช้ค่ะ วันนี้แจนเลยอยากจะพาสาวๆมเปิดและสวอชไปพร้อมๆกันเลย ว่าเนื้อเค้าเป็นยังไงกันบ้าง และมีอะไรบ้าง ตามไปดูรีวิวกันได้เลยค่ะ ^^
ไอเท็มตัวแรกที่น่าตื่นเต้นนั่นคือ " COSLUXE " นางทำรองพื้นแล้วจ้าาาา พลิกจากงานคิ้วงานตา นาทีนี้ก็มาฮอทกันกับงานผิว งานหน้ากันบ้างเนอะ แจนขอบอกเลยค่ะว่านางมาแบบไม่ธรรมดาแน่นอน
เรียกน้องคนนี้ว่า >> Tap Mix Me...Super Matte Foundation <<
คุณสมบัติของน้องเค้าคือ..
- รองพื้นเนื้อแมท ที่มีความเรียบเนียนสูง เป็นธรรมชาติ
- ติดทน ไม่เป็นคราบในระหว่างวัน
-ให้ความเรียบเนียนสม่ำเสมอแต่เบาสบายตลอดวัน
- ให้การปกปิดที่ดีเยี่ยม
- สามารถควบคุมความมันยาวนานถึง 24 ชั่วโมง
มีมาทั้งหมด 3 เฉดสีค่ะ แต่ก็จะเป็น Tone ที่ต่างกัน
No.T01 : เหมาะสำหรับสาวผิวขาวเหลือง
No.T02 : เหมาะสำหรับสาวผิวขาวอมชมพู
No.T03 : เหมาะสำหรับสาวผิวสองสี
(เบอร์ของรองพื้นก็จะติดอยู่ที่ด้านหลังขวดตามในภาพเลยจ้า)
สาวๆคงนึกสงสัยว่า....เอ๊!!! รองพื้นมีแค่สามสีทำไมทำเฉดมาสว่างจัง?? แจนบอกแล้วว่าเค้าไม่ได้มาเล่นๆ ^^ สำหรับรองพื้นตัวนี้พูดง่ายๆเลยก็คือนางจะเป็นสีเบสที่ใช้ตามโทนสีผิวเราเลยค่ะ แล้วก็จะใช้คู่กันกับ Tap Mix Me...Shine & Shade Mixer นั่นเอง ที่เอาไว้ใช้ผสมสีให้เข้ากับสีผิวของเราได้เด๊ะๆเลยนั่นเองค่ะ
สำหรับคู่หู DUO >>> Tap Mix Me...Super Matte Foundation + Tap Mix Me...Shine & Shade Mixer สองตัวนี้นางเกิดมาเพื่อฆ่ารองพื้นเคาท์เตอร์แบรด์เลยก็ว่าได้ และยังตอบโจทย์สาวๆที่สีผิวไม่คงที่ เดี๋ยวขาวเดี๋ยวคล้ำ เอาเรื่องจริงคือไปทะเลทีนึงกลับบ้านมาสีผิวก็เปลี่ยนแล้วค่ะทุกคน จริงไหม??
นี่แหละค่ะ เป็นการตอบโจทย์สำหรับสาวๆมากๆ จะได้ไม่ต้องซื้อรองพื้นเยอะแยะหลายอัน แล้วก็จะมีอาการใช้ไม่ทันนางอีกด้วย เพราะเราต้องมาคอยสลับไปสสลับมา แจนว่าคอสลุคตีโจทย์ได้แตกมากเว่อร์
รองพื้นตัวนี้นางมาในแพกเกจจิ้งที่ดูดี มีราคา และใช้ง่ายด้วยค่ะ มีลักษณะเป็นขวดแก้ว และเป็นหัวปั้ม อันนี้คือเป็นข้อดีของการใช้งานมากๆ ในเรื่องของการกำหนดเนื้อผลิตภัณฑ์ที่ออกมา แจนชอบแพกเกจมากๆค่ะ อ่อ!! เค้ามีฝาปิดด้วยนะ ดีงามเข้าไปอี๊กก!!
ราคาอยู่ที่ 559 บาท คือถูกจนงง รองพื้นดีขนาดนี้ราคาแค่นี้เอง ซื้อค่ะ!!!
ถึงคิวน้องนางคนนี้บ้างละ ที่พูดถึงชื่อไปเมื่อกี้นี้ นางคือ " Tap Mix Me...Shine & Shade Mixer " ตัวนี้แหละค่ะที่จะใช้เป็นตัว Mixer ผสมกันกับเจ้ารองพื้นตัวแรก ตอบโจทย์แน่นอนสำหรับสาวๆที่รักการลงรองพื้น
ทำไมแจนถึงมั่นใจว่าตอบโจทย์สาวๆที่รักการลงรองพื้น?? นี่เลยค่ะ เค้าขนขบวนมากัน 4 เฉดสี โดยใน 4 เฉดสีนี้ก็จะมีทั้งตัวที่ผสมแล้วทำให้หน้าวาวมีประกายเหมือนสาวเกาหลี หรือจะใช้ลงเฉดดิ้งหน้าให้ดูเรียวมีมิติก็สามารถทำได้เช่นกัน
โอย....เห็นสีแล้วใจจิวาย!!!
W01 >> ใช้เป็นไฮไลท์เพิ่มประกายสดใสฉ่ำวาให้ผิวอมชมพู
W02 >> ไฮไลท์เพิ่มประกายทองหรูหรา เพิ่มความ GLOW ให้ใบหน้า
SH01 >> ใช้ปรับสีรองพื้นด้วยเนื้อ Mixer สีเข้ม (HONEY)
SH02 >> ปรับสีรองพื้นด้วยเนื้อ Mixer สีเข้มสุด ให้ใบหน้าดูมีมิติ และสามารถนำมาใช้เป็น Shading ได้อีกด้วยค่ะ
แพกเกจจิ้งจะเป็นขวดพลาสติกค่ะ มีฝาปิด หัวปั้ม แต่แจนว่ากดยากไปนิดนึงนะ บางทีกดๆเนื้อโปรดักส์พุ่งกระฉูดออกจากมือเฉยเลย ฮ่าๆ ในส่วนของตรงหัวกดนั้นเป็นตัวปาดกำหนดปริมาณของเนื้อโปรดักส์ที่ออกมาได้ดีเลยนะ ตรงนี้แจนชอบๆ
ราคาของ Mixer อยู่ที่ 459 บาท บอกเลยว่าซื้อตัวรองพื้นพร้อมกับ Mixer ราคายังไม่พัน ซึ่งคุณภาพนี่ไปตีเคาท์เตอร์แบรนด์ได้เลยแหละ
T03 + SH02
และนี่เลยค่ะสำหรับตัวรองพื้นและMixer ที่แจนได้ลงบนผิวหน้า แจนเลือกใช้เป็นรองพื้นเบอร์ T03 + ตัว Mixer เบอร์ SH02 สำหรับตัว Mixer จะใช้เยอะหรือน้อยก็อยู่ที่สีผิวของเราเลยค่ะ ถ้าผิวเข้มมากๆก็ใช้ SH02 เยอะหน่อย ผสมๆวนไปตามที่ต้องการได้เลยเด้อ!!!
สังเกตได้เลยค่ะว่า เนื้อเค้าเนียนมากๆ แล้วมองเห็นได้เลยว่าฟินิชชิ่งเค้าเป็นแบบแมท อารมณ์แบบไม่ต้องตบแป้งทับให้ยุ่งยากเลย แจนตกใจมากมาย ตอนรองพื้นเค้าเซ็ทตัวแล้วกลายเป็นแป้ง มันเวิร์คสุดๆ ไม่มีการตกร่อง เป็นคราบ หรือว่าแคร๊กเป็นดวงๆเลย เนียนมากๆ เค้าสามารถปกปิดได้ดีในระดับนึงเลยนะคะ อยู่ในระดับ medium เลยแหละ ถ้าบิวท์ดีๆ แจนว่าถึงขั้น Full Coverage ได้เลยแหละ รอยสิว รอยดำรอยแดง นางกลบมิดหมด รูขุมขนนางก็พลางๆได้นิดหน่อยเด้อ สำหรับรองพื้นตัวนี้เหมาะมากๆสำหรับสาวหน้ามันนะคะแจนว่า ตอบโจทย์เลยแหละ และคิดว่าสาวหน้ามันจะต้องหลงรักนาง สาวผิวแห้งก็ใช้ได้นะ แต่ถ้าผิวแห้งมากๆถึงขั้นที่ผิวลอก ก็อาจจะทำให้เกิดอาการรองพื้นเป็นขุยได้เด้อ สาวผิวแห้งควรโบกมอยเจอไรเซอร์หนักๆก่อนใช้จะได้ผิวที่ดีและสวยมากๆค่ะ หมดปัญหาหน้าเป็นขุยได้บ้าง อิอิ
มาถึงตัวต่อมา บอกเลยว่าตัวนี้ยกใจทั้งดวงให้นางเลยค่ะ ดีงามพระแปดจริงๆ ค่ะกับ " Tap Sheer Better Concealer " นางเกิดมาเป็นคอนซีลเลอร์เนื้อแน่น แต่ให้สัมผัสที่บางเบา สบายผิว เกลี่ยง่าย ไม่เป็นก้อน ไม่แคร๊ก ไม่ตกร่อง สามารถแก้ไขจุดบกพร่องบนใบหน้าได้แบบเนียนกริ๊บ ไม่ว่าจะรอยสิว รอยดำรอยแดง หายวับไปกับตา และที่ดีงามอีกอย่างคือเป็นคอนซีลเลอร์ที่เก็บโครงคิ้วได้เวิร์คมากๆค่ะ ไร้ที่ติเลยจริงๆกับคอนซีลเลอร์ตัวนี้ แจนยอมรับเลย พูดมาดีงามขนาดนี้ละ เรื่องความติดทนก็ไม่แพ้กัน นางติดทนมากเว่อร์ แจนทดสอบมาแล้วค่ะ ทาเช้า กลับบ้านมาเช็คดูตอนดึก นางยังแน่นอยู่เช่นเดิม เอ้อ!! ยอมใจเลยตัวนี้
สีของคอนซีลเลอร์คือมีให้สาวๆหลายสีผิวได้เลือกกันเลยค่ะ เอาเซ่!! นางไม่ใช่จะเป็นคอลซีลเลอร์ที่มาเล่นๆแค่สีสองสีนะยู้วววว!!!
มีให้เลือกทั้งหมด 4 เฉดสี
- 01 Peanut :: สำหรับผิวขาวอมชมพู
- 02 Walnut :: สำหรับผิวขาวอมเหลือง
- 03 Hazelnut :: สำหรับผิวสองสี
- 04 Almond :: เนื้อคอนซีลเลอร์สีอมส้ม สามารถใช้ได้ในผิวที่มีสองสีโทนแดง และยังสามารถนำมาเป็นคอลเลคเตอร์ในการกลบแพนด้าใต้ตาได้อีกด้วยค่ะ
แอพลิเคเตอร์ก็เป็นหัวแปรงฟองน้ำที่ใช้งานง่าย เกลี่ย และปาดได้ง่ายค่ะ สามารถกำหนดปริมาณของเนื้อโปรดักส์ได้ดีเลยแหละ
ราคาของ Concealer อยู่ที่ 359 บาทค่าา...
เป็นไหมผลลัพธ์ของนาง เอ้อ!!! กลบได้ดีงามเลยแหละ ซ้ายมือคือใช้แต่รองพื้นไม่ใช้คอนซีลเลอร์ค่ะ จะเห็นว่าก็มีรอยผดเม็ดเล็กๆอยู่บริเวณใต้ตา แล้วก็มีรอยคล้ำแพนด้าไปอีก ส่วนข้างขวาที่ใช้คอนซีลเลอร์+ทับด้วยรองพื้นอีกที คือดีงามพระรามแปดเลยค่ะ ดูเป็นธรรมชาติดีมากๆ สีไม่โดด ไม่ตกร่องเลยค่ะ
และนี่ก็เป็นอีกคอลเลคชั่นนึงที่คลานตามกันออกมาติดๆเลยค่ะ งานคิ้ว งานตา งานหน้าก็แล้ว มาถึงคิวของงานปากกันบ้าง!! แล้วก็เป็นงานปากที่ไม่ธรรมดาอีกเช่นเคย ตัวนี้เป็นคอลเลคชั่นของ " BLOOMY Lip & Cheek Whip " ลิปสติกเนื้อวิป ที่มีความเนียนนุ่ม ละมุนปาก สีติดชัด และฟินิชชิ่งก็เป็นแมทค่ะ เหมือนตัวรองพื้นเลยคือพอเค้าเซ็ทตัวเค้าก็กลายเป็นแมทแบบแป้งเลย
และจากที่บอกว่าไม่ธรรมดา เพื่อนๆคงคิดว่าก็ลิปจิ้มจุ่มธรรมดา แต่เปล่านะเออ นางเป็นได้ทั้งลิป บลัชออน และอายชาโด้ว เอ้อ!!!! ไงละ แล้วจะบอกว่าแจนเอามาใช้เป็นบลัชทาแก้มคือติดใจมาก เพราะเกลี่ยง่ายสุดๆ ไม่ทำให้เป็นดวงๆเลยนะ เกลี่ยเสร็จพอเค้าแห้งเซ็ตตัวก็กลายเป็นแป้งไปเลย โห้วววว อึ้ง!!! มากในความดีของนาง
โอ้ยยยย.....เห็นสีแล้วใจละลาย มีความหวานปนแซ่บ แพกเกจจิ้งน่ารักนะ มีความเล็กกระทัดรัด ตะมุตะมิ
แพกเกจจิ้งก็มาในกล่องที่สวยงาม มีกิมมิกมากๆ นับถือมากๆเลยค่ะ ในความละเอียดอ่อนของคอสลุค!!
แล้วดูชื่อสีของนาง น่ารักไหมล๊าาา
และนี่เลยค่ะ คือสีของน้องนางคนสวย มีหลากโทนสีให้เลือสรร ไม่ว่าจะเป็นม่วง ส้ม แดง ชมพู น้ำตาล เอ่า!! มันต้องมีสักสีที่โดนใจ สำหรับแจน แจนปลื้มสี Peach Peony มากๆค่ะ เอามาเบลนที่แก้มแล้วดูสดใส ย้อนวัยไปได้อีก!!! แล้วอีกสีนึงคือ Burgundy Daisy เอามาทาปากคือสายฝ.สุดๆ
ราคาแค่ 299 บาทถือว่าคุ้มมากกกก...ใช้ได้ 3 in 1 ขนาดนี้
(เดี๋ยวรีวิวจัดเต็มตัวนี้รอชมกันเด้ออออ สวยงามตามท้องเรื่องแน่นอน)
และไหนๆก็ไหนแล้ว รีวิวคอสลุคมาขนาดนี้ละ เอาให้หมดทั้งแบรนด์เลยแล้วกันเน๊อะ กับไอเท็มเด็ดๆ เดี๋ยวแจนจะงัดมารีวิวให้สาวๆได้ดูกันคร่าวๆว่าจากที่แจนรีวิวไปข้างต้นแล้ว คอลเลคชั่นเก่าๆของเค้ายังมีอะไรที่น่าสนใจกันอีกบ้าง
" TAP BLUR & BRIGHT "
ตัวนีเป็นแป้ง Translucent ที่มาให้รูปแบบตลับ พกพาง่าย ใช้งานง่ายค่ะ เป็นแป้งที่มีเนื้อบางเบา ใช้สำหรับปัดเพื่อ lock Make-up เพื่อความกระจ่างใส ปลื้มตลับมากๆเลยค่ะ มีความเล็กกระทัดรัดมากๆ เหมาะสำหรับพกพาไว้ในกระเป๋า เอาไว้ทัชอัพระหว่างวัน ไม่เป็นคราบด้วยนะตัวนี้
ขนาด 8 กรัม ราคา 439 บาทเด้อ
ตัวนี้เค้าก็ชื่อเสียงเลื่องลืออยู่นาาาาา " COSLUXE TAP " แท๊ปเดียวอยู่เลย เค้าเป็นแป้งผสมรองพื้นที่มีเนื้อบางเบาดุจกำมะหยี่ ไม่หนา ไม่ตกร่อง เป็นแป้งพัฟผสมรองพื้นค่ะ ในรูปแบบของ Semi-Foundation ซึ่งเป็นเทคโนโลยีใหม่จากประเทศฝรั่งเศสเลยแหละ แป้งพัฟตัวนี้มีคุณสมบัติในเรื่องของการควบคุมความมัน ช่วยให้ผิวดูเรียบเนียนอีกด้วยค่ะ
สีของแป้งมีให้เลือกเยอะมากเว่อร์!!!! ขนขบวนมาตั้ง 5 สีกันเลยทีเดียว เยี่ยมไปเลยค่าาาาา
ราคาตัวนี้อยู่ที่ 690 บาทจ้าา
มาปิดท้ายกันด้วยงานแปรงค่ะ ไงละ งานแปรงเค้าก็มา แล้วมาแบบงานดีด้วยนะ มาดูรุ่นแรกกันค่ะคือตัวนี้เป็นแปงแบบ "คาบูกิ" ขนมีความนุ่มมากๆๆ ใช้สำหรับลงแป้งนั่นเอง แต่!!! เค้าก็สามารถใช้ลงไฮไลท์ หรือคอนทัวร์เนื้อครีมได้อีกด้วยนะ แล้วบอกเลยว่าแปรงนี้ขนไม่ได้หลุดร่วงให้รำคานใจเลยเด้อ ทำเป็นเล่นไป... ราคา 290 เองถูกเว่อร์!!!
มาจบกันที่ แปรงลงรองพื้นกันบ้าง "The Basic Brush" แปรงตัวนี้ขนนุ่มนะคะ และมีความแน่นในตัว ดังนั้นเวลาที่ใช้ลงรองพื้น จะทำให้เป็นฟินิชชิ่งที่เนียน และบางเบา แปรงไม่กินรองพื้นเลย และไม่ทำให้รองพื้นเป็นเส้นอีกด้วย ราคา 290 บาทเด้อจ้าา...
หมดแล้วค่าาาาาสำหรับการรีวิวแบบมหากาฬในวันนี้ เห็นไหม มีแต่ของเด็ดๆทั้งนั้น แจนกล้าพูดเลยว่า Cosluxe เป็นแบรนด์ไทยแบรนด์นึงที่คุณภาพดี เทียบเท่าเคาท์เตอร์แบรนด์ ในราคาที่เบาๆ เอื้อมถึงได้ง่ายๆ ตอบโจทย์สาวไทยได้ดีที่สุด ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของคุณภาพ หรือโทนสี ใครไม่มีไอเท็มของ Cosluxe ไว้ในกรุบอกเลยว่าเชยยยยยยยมากนะ อิอิ เพราะฉะนั้นไปหามาลองซะ!! แล้วจะติดใจแบบแจน
ติดตามข้อมูลข่าวสารของ Cosluxe เพิ่มเติมได้ที่ https://www.facebook.com/Cosluxe/
วันนี้แจนก็ต้องขอตัวลาไปก่อน ร่ายมนต์มาซะยาวมากเว่อร์...ขอบคุณทุกคนมากๆเลยนะคะที่อ่านมาจนถึงบรรทัดนี้ ไม่รักกันจริงไม่อ่านมาจนจบขนาดนี้ ขอบคุณทุกคนจริงๆที่ติดตาม Cocoa Channel แล้วพบกันใหม่ในรีวิวหน้าเด้อ สวัสดีค่าาาาา^^ จุ๊บๆ
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น